ในปี 1979 ผลงานเอกลักษณ์เพียงหนึ่งเดียวได้สร้างประวัติศาสตร์ขึ้นจากเพชร rivière ทรงเรขาคณิต และในปี 2024 เราจะได้สัมผัสกับทายาทของเธอ นั่นคือ GRAND LADY KALLA
ผลงานชิ้นเอกของเครื่องประดับอัญมณีชั้นสูง
Grand Lady Kalla สะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ด้านอัญมณีและนาฬิกาพกที่เฟื่องฟูมาอย่างยาวนานของเมซง โดยฝ่ายผลิตผสมผสานความคิดสร้างสรรค์เข้ากับงานฝีมือชั้นเลิศในด้านเครื่องประดับอัญมณีชั้นสูง
รำลึกถึงประวัติศาสตร์ที่เจิดจรัส
จากการออกแบบของ Kalla อันโด่งดังที่เปิดตัวไปในปี 1980 ซึ่งเป็นทายาทของ Kallista ที่เปิดตัวในปี 1979 นั้น Grand Lady Kalla ปี 2024 จึงขอให้เกียรติยกย่องชื่อรุ่นที่เป็นแรงบันดาลใจนั้น นั่นคือคำในภาษากรีกว่า Kallista ที่มีความหมายว่า “งดงามที่สุด”
ความสามารถในการปรับเปลี่ยนได้อย่างงดงาม
ในปี 1924 นาฬิการุ่นพกพาที่เป็นนวัตกรรมใหม่นั้นถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นเข็มกลัดอย่างชาญฉลาด หนึ่งศตวรรษต่อมา เมซงเพิ่มความสามารถรอบด้านนี้ขึ้นเป็นสี่เท่า ด้วยการนำเสนอวิธีการสวมใส่ Grand Lady Kalla ถึงสี่รูปแบบ ผลงานชิ้นเลิศชิ้นนี้เป็นการเชิญชวนแบบร่วมสมัยที่แฝงไว้ด้วยความสนุกสนาน ให้คุณมาสัมผัสการปรับเปลี่ยนอย่างมีสไตล์ได้ตั้งแต่ข้อมือไปจนถึงเรียวลำคอ โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือใดเลย
ซึ่งผลงานสร้างสรรค์ชิ้นใหม่นี้ได้ผสมผสานความเหนือชั้นเข้าไว้มากมาย ตั้งแต่การร่างภาพเบื้องต้นไปจนถึงการตกแต่งขั้นสุดท้าย ความละเอียดอ่อนของการปรับแต่งนั้นเกิดขึ้นได้ด้วยการดำเนินการอันชาญฉลาดของชิ้นงาน
อัญมณีบนข้อมือ
เรือนเวลาเรือนนี้ประดับด้วยเพชรที่ผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถันจากนักอัญมณีศาสตร์ของเมซงไว้ไม่น้อยกว่า 131 เม็ด โดยคุณจะได้สัมผัสเพชรมากขึ้นไปอีกบนสร้อยคอที่มีกว่า 272 เม็ด ในน้ำหนักรวมมากกว่า 45 กะรัต รวมถึงเพชรเม็ดกลางคุณภาพเยี่ยมน้ำหนักมากกว่า 2 กะรัตที่ผ่านรับการรับรองจาก GIA
ความสง่างามของการเจียระไนเพชรทรงมรกต
การเจียระไนเพชรทรงมรกตต้องใช้วัสดุผลึกบริสุทธิ์เพื่อสร้างเหลี่ยมเพชรที่ส่องประกายวับวาวอันน่าหลงใหลถึง 57 เหลี่ยม การทำงานที่แม่นยำอย่างยิ่งทำให้เพชรสามารถแสดงออกถึงธรรมชาติที่แท้จริงของเพชรได้
ชิ้นผลงานสร้อยคอหายาก
ศิลปะของช่างทำจิวเวลรี่ของเมซงสามารถแสดงออกผ่านสร้อยคอได้เช่นกัน สร้อยคอเส้นนี้ผสมผสานลูกปัดออนิกซ์เข้ากับไข่มุก Akoya อันงดงามที่ผ่านการคัดสรรมาด้วยคุณสมบัติด้านความแวววาวและความกลมสวย ช่วยสร้างการสื่อสารระหว่างอาร์ตเดโคกับศตวรรษที่ 21 ได้อย่างน่าสนใจยิ่ง
