Old blueprints and watchmaking tools lay on a desk.

ตั้งแต่ปี 1755

มรดกตั้งแต่ 1755
270 ปีแห่งความเป็นเลิศในการผลิตนาฬิกา

ตั้งแต่ปี 1755

การแสวงหาความเป็นเลิศด้านการผลิตนาฬิกาเป็นการเดินทางของ Vacheron Constantin มาตั้งแต่ปี 1755 ดื่มด่ำกับประวัติศาสตร์ของ Maison และค้นพบเรื่องราวและช่วงเวลาสำคัญๆ นับไม่ถ้วนที่หล่อหลอมมรดกที่สืบทอดมายาวนาน


หมุดหมายทางประวัติศาสตร์ กลไกและคาลิเบอร์ชั้นเลิศ นาฬิกาชั้นเยี่ยม สถิติโลก
A vintage book labeled 'NEW YORK B', next to an old-fashioned wristwatch with a leather strap, placed on top of an old document with handwritten text

หมุดหมายทางประวัติศาสตร์

ด้วยวิสัยทัศน์อันกล้าหาญและแน่วแน่ เหล่าผู้บุกเบิกเหล่านี้ได้วางรากฐานแห่งเรื่องราวที่ดำเนินต่อเนื่องโดยไม่เคยหยุดนิ่งจนถึงปัจจุบัน มรดกของพวกเขาถูกฝังอยู่ในหัวใจของแนวทางที่ Vacheron Constantin ยึดถือ และบุคลิกของพวกเขายังคงสะท้อนอยู่ในทุกมิติ—ไม่ว่าจะเป็นการแสวงหาความเป็นเลิศ จิตวิญญาณแห่งนวัตกรรม หรือจังหวะการเดินของกลไกแต่ละชิ้น ที่ถือกำเนิดจากโรงงาน

A collage of three historic male portraits and a watch movement.
A light background  with the French text, which translates to 'Do better if possible, which is always possible.'
A golden watch movement is being worked on with tools.
A large gear and a gold Maltese cross logo on display.

เหล่าช่างฝีมือแห่งความเป็นเลิศ

1755 – จุดเริ่มต้นแห่งตำนาน 1819 – การถือกำเนิดของหุ้นส่วน 1839 – นวัตกรรมและความก้าวหน้าทางเทคนิค 1880 – การกำเนิดของสัญลักษณ์มอลทิส ครอส

สถานที่อันเป็นสัญลักษณ์

1906 – บูติคแห่งแรกในย่านใจกลางเมืองเจนีวา

ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 Vacheron Constantin ได้รับคำสั่งผลิตเรือนเวลาจากบุคคลสำคัญระดับราชวงศ์และชนชั้นสูง ไม่ว่าจะเป็นสมเด็จพระราชินีมารีแห่งโรมาเนีย, พี่น้องตระกูลเจมส์—เฮนรีและวิลเลียม, และเจ้าชายนโปเลียน วิกเตอร์ หลานของเจอโรม โบนาปาร์ต เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 1906 เมซงได้เปิดบูติคแห่งแรกอย่างเป็นทางการ ณ ใจกลางเมืองเจนีวา เพื่อเป็นพื้นที่อันเหมาะสมสำหรับจัดแสดงเรือนเวลาหรูหรา

An old brown building with the text saying "Watchmaking Factory" on its facade.

2004 - Vacheron Constantin ได้เข้าครอบครองโรงงานผลิตแห่งใหม่ใน Plan‑les-Ouates

Vacheron Constantin ได้เปิดตัวอาคารโรงงานแห่งใหม่ใน Plan-les-Ouates ซึ่งออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง Bernard Tschumi อาคารร่วมสมัยรูปมอลทิส ครอสครึ่งหนึ่งแห่งนี้รวมฝ่ายบริหาร การผลิต และเวิร์กช็อปไว้ภายใต้หลังคาเดียวกัน ไม่ถึงสิบปีถัดมา ในเดือนตุลาคม 2013 เมซงได้เปิดโรงงานผลิตแห่งใหม่ใน Le Brassus ใจกลางหุบเขา Vallée de Joux

A modern building with glass and grey metal structure..
Tweezers holding a gold piece over an intricate watch movement.

กลไกและคาลิเบอร์ชั้นเลิศ

กว่า 200 ปี Vacheron Constantin ได้สำรวจและท้าทายทุกมิติของศาสตร์นาฬิกา ตั้งแต่กลไกทูร์บิญง ไปจนถึงนาฬิกาดาราศาสตร์ จากเรือนเวลาที่ส่งเสียงตีระฆัง ไปจนถึงโครโนกราฟ ความชำนาญยังรวมไปถึงการผลิตคาลิเบอร์บางพิเศษ และศิลปะการเจาะโครงสร้างกลไกให้เห็นการทำงานแบบโอเพ่นเวิร์ก

Two antique gold pocket watches with white faces and black Roman numerals.
Two gold pocket watches, one closed and one open with a white dial.
A gold pocket watch displaying multiple time zones

การวัดเวลาอย่างแม่นยำ

1819 – โครโนกราฟและความแม่นยำ 1907 – ความเที่ยงตรงและความน่าเชื่อถือ 1932 – ตอบโจทย์การเดินทางของยุคสมัย

นวัตกรรมไม่หยุดนิ่งและความท้าทายทางเทคนิค

1943 – Ultra-Thin Minute Repeater 4261

Ref. 4261 คือหมุดหมายสำคัญของเรือนเวลาส่งเสียงบอกเวลาของเมซง ด้วยเรือนเวลานี้ในช่วงต้นยุค 1940s Vacheron Constantin ไม่เพียงแต่เอาชนะความท้าทายทางเทคนิคของ minute repeater เท่านั้น แต่ยังสร้างคาลิเบอร์บางพิเศษที่ทำลายสถิติ ด้วยความหนาเพียง 3.2 มม. บรรจุอยู่ในตัวเรือนที่บางเพียง 5.25 มม. และมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 36 มม. ผลงานชิ้นนี้ถือเป็นหนึ่งในตำนานของเมซง และหายากอย่างยิ่ง

A classic round silver watch with a dark leather strap.
Side view of an ultra-thin wristwatch with a gold case and black strap, showcasing its thin profile next to two coins for comparison.

1955 – Ultra-Thin Calibre 1003

ในวาระครบรอบ 200 ปีของเมซง Vacheron Constantin ได้ตอกย้ำพันธกิจแห่งการสร้างสรรค์เรือนเวลาที่เปี่ยมด้วยความสง่างาม โดยเปิดตัวนาฬิกาข้อมือที่บางที่สุดในยุคนั้น ประกอบด้วยชิ้นส่วน 117 ชิ้น และขับเคลื่อนด้วยกลไกในตำนาน Calibre 1003 ขนาด 9" ซึ่งมีความหนาเพียง 1.64 มม. และยังคงเป็นหนึ่งในกลไกไขลานด้วยมือที่บางที่สุดในโลกมาจนถึงปัจจุบัน ในปี 2015 กลไก Calibre 1003 ได้รับการนำกลับมาผลิตใหม่ในเวอร์ชันทอง

1994 – กลไกโปร่งใสแบบ Skeletonised

ในสายตาของนักสะสมนาฬิกา การ skeletonisation หรือการเจาะโครงสร้างกลไก ถือเป็นหนึ่งใน “complication” ที่น่าทึ่งของศาสตร์การทำนาฬิกา เทคนิคนี้เกี่ยวข้องกับการคว้านชิ้นส่วนของกลไกให้โปร่งแสงเพื่อโชว์โครงสร้างภายใน โดยไม่กระทบต่อความเสถียรในการทำงาน ซึ่งต้องใช้ทักษะระดับสูงที่ช่างฝีมือเพียงหยิบมือเดียวในโลกสามารถเชี่ยวชาญได้ Vacheron Constantin คือหนึ่งในไม่กี่เมซงที่สามารถผลิตกลไก skeletonised ที่ซับซ้อนในระดับปฏิทินถาวร และกลไกบางพิเศษได้

A round skeleton watch with visible gears and a moon phase.

เทคโนโลยีที่สอดรับกับดีไซน์

1996 – การแสดงเวลาแบบพิเศษ

นาฬิกาแบบ Jumping Hour ซึ่งปรากฏครั้งแรกในปี 1824 ถูกออกแบบมาเพื่อให้อ่านเวลาได้สะดวกยิ่งขึ้น ในปัจจุบัน ความซับซ้อนในการแสดงเวลานี้มักจับคู่กับกลไก retrograde minute ซึ่งเข็มนาทีจะกวาดเป็นเส้นโค้งจาก 0 ถึง 60 แล้วดีดกลับมาเริ่มใหม่ในลูปอย่างต่อเนื่อง รุ่น Saltarello ที่เปิดตัวในปี 1996 คือตัวอย่างอันโดดเด่นของแนวทางนี้ โดยรวมฟังก์ชันทั้งสองไว้ในเรือนเดียว และกลายเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ทางเทคนิคของ Vacheron Constantin

A woman's wrist wearing a watch with a black leather strap and a silver face.
Wristwatch with a black leather strap, a silver watch face featuring an arched scale from 0 to 60 for minutes, and a small window at the top displaying the hour in numerical format.

2005 – เสรีภาพทางศิลปะที่ไม่มีข้อจำกัด

กลไก Calibre 2460 G4 ซึ่งเปิดตัวในปี 2005 และยังคงใช้อย่างต่อเนื่อง มาพร้อมจานหมุน 4 แผ่นแยกกันแสดงเวลา ชั่วโมง นาที วัน และวันที่ ช่องหน้าต่างที่วางตำแหน่งอย่างสมมาตรรอบขอบหน้าปัดทำให้เว้นพื้นที่ตรงกลางไว้อย่างกว้างขวางสำหรับงานศิลป์ของช่างฝีมือ เนื่องจากไม่มีเข็มหรือตัวเลขมาบดบัง จึงเหมาะอย่างยิ่งกับการรังสรรค์เรือนเวลาในคอลเลคชั่น Métiers d’Art

A watch with a brown leather strap, a blue watch case engraved with a lion, and a gold frame .
A gloved hand holding a blue watch case back engraved with a lion
The intricate inner workings of a mechanical watch with visible gears and components, set against a dark background

นาฬิกาชั้นเยี่ยม

มรดกของ Vacheron Constantin ถูกหล่อหลอมขึ้นจากเรือนเวลาที่โดดเด่นแต่ละเรือน ซึ่งหลอมรวมงานศิลป์และนวัตกรรมทางกลไกเข้าไว้ด้วยกันอย่างไร้ที่ติ และเป็นรากฐานของตำนานที่ดำเนินมาตั้งแต่ปี 1755

1755 – นาฬิกาพกเรือนแรกที่รู้จัก ซึ่งสร้างโดย Jean-Marc Vacheron

ความภาคภูมิใจในมรดกของ Vacheron Constantin คือนาฬิกาสีเงินเรือนนี้ที่ลงนาม J. M: Vacheron à Geneve บนกลไก และเป็นนาฬิกาเพียงเรือนเดียวที่ระบุชื่อผู้ก่อตั้งเมซงตามชื่อจริงของเขา นาฬิกาเรือนนี้ได้รับการติดตั้งกลไก Verge ซึ่งมาพร้อมกับเข็มนาฬิการังสรรค์ขึ้นด้วยทองคำ สะพานจักร Balance-Cock เป็นส่วนของกลไกที่มองเห็นได้ชัดที่สุดทั้งยังแสดงให้เห็นถึงฝีมือระดับสูงในลวดลายอาหรับที่ละเอียดอ่อน มาตรฐานทางเทคนิคและความงามอันทวีคูณนี้ได้ค่อยๆ หล่อหลอมเอกลักษณ์ของเมซงขึ้นมา

An antique pocket watch with Roman numerals, placed in front of an open book with handwritten text.
A pocket watch with a detailed map of Europe on its cover, featuring gold text on a blue background.

1824 – การแสวงหาความเป็นเลิศทางศิลปะอย่างไม่สิ้นสุด

มรดกของ Vacheron Constantin แสดงให้เห็นถึงการผสานกันอย่างต่อเนื่องของความคิดสร้างสรรค์ทั้งในเชิงเทคนิคและความงาม แรงบันดาลใจจากโลกใบนี้ได้หล่อเลี้ยงเมซงมาโดยตลอด

ทั้งยังสะท้อนความผูกพันลึกซึ้งต่อศิลปะและวัฒนธรรม ผ่านความร่วมมือและพันธมิตรนานาชาติ ในฐานะตัวแทนของ La Belle Haute Horlogerie เมซงได้รังสรรค์เรือนเวลาที่เป็นทั้งนวัตกรรมและงานศิลป์ในคราวเดียว ด้วยความหลงใหลและความชำนาญอันลึกซึ้ง ช่างนาฬิกาผู้เชี่ยวชาญและช่างฝีมือระดับมาสเตอร์ของเมซงสามารถปลุกอารมณ์ ถ่ายทอดเรื่องราว และแบ่งปันวิสัยทัศน์ทางศิลป์ผ่านเรือนเวลาแต่ละเรือน


1889 - หนึ่งในนาฬิกาข้อมือสุภาพสตรีรุ่นแรก

แม้ผู้หญิงจะให้ความสนใจกับศาสตร์แห่งการประดิษฐ์นาฬิกาตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม แต่มักเป็นไปเพื่อเติมเต็มการแต่งกายด้วยนาฬิกาที่ออกแบบในลักษณะอัญมณี นาฬิกาข้อมือสุภาพสตรีรุ่นนี้จากปี 1889 นับเป็นหนึ่งในนาฬิกาข้อมือรุ่นแรกที่ผลิตในจำนวนมาก การมาถึงของมันสร้างความฮือฮาไม่น้อย แม้ในขณะนั้นนาฬิกาพกยังคงครองความนิยมอย่างไร้คู่แข่งไปจนถึงต้นศตวรรษที่ 20

แบรนด์ยังคงให้ความสำคัญกับเรือนเวลาสำหรับผู้หญิงในฐานะพื้นที่แห่งการแสดงออก โดยคงไว้ซึ่งความท้าทายในการผสานความงามเหนือกาลเวลาเข้ากับกระแสแฟชั่น เพื่อสอดรับกับบทบาทที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้หญิงอยู่เสมอ

An ornate gold pocket watch with a white face, Roman numerals.

1918 – พลังแห่งเทคนิคชั้นสูง

Vacheron Constantin คือผู้ผลิตนาฬิกาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกซึ่งดำเนินกิจการอย่างต่อเนื่องไม่เคยหยุด เป็นความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมากว่า 270 ปี ภายใต้รูปโฉมที่ดูเรียบง่ายของเรือนเวลากลับซ่อนกลไกอันซับซ้อนอย่างน่าทึ่ง เมซงนำเสนอฟังก์ชันระดับสูงมากมาย ทั้งนาฬิกาส่งเสียงบอกเวลา กลไกทูร์บิญง การแสดงเวลาพิเศษ ไปจนถึงกลไกดาราศาสตร์

ชื่อเสียงของเมซงก่อตัวขึ้นจากการผสานอย่างลงตัวระหว่างประเพณีเหนือกาลเวลากับนวัตกรรมล้ำยุค โดยหลอมรวมศาสตร์แห่งการประดิษฐ์นาฬิกากับงานออกแบบอันวิจิตร เพื่อเปลี่ยนเรือนเวลาแต่ละเรือนให้กลายเป็นผลงานศิลปะระดับมาสเตอร์พีซ

An ornate gold pocket watch with a white face, Roman numerals.

1979 – Kallista ผลงานชั้นเลิศแห่งความวิจิตรศิลป์

รังสรรค์จากทองคำแท่งหนักหนึ่งกิโลกรัม และประดับเพชร 118 เม็ด รวมกว่า 130 กะรัต เรือนเวลา “Kallista” (ซึ่งมีรากศัพท์จากภาษากรีก แปลว่า “สง่างามที่สุด”) ถือเป็นหนึ่งในผลงานการประดิษฐ์นาฬิกาที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดตลอดกาล ต้องใช้เวลากว่าสิบสองเดือนในการคัดสรรและจับคู่เพชรเจียระไนทรงเหลี่ยมมรกตให้เข้ากัน และต้องใช้แรงงานมากกว่า 6,000 ชั่วโมงในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกนี้ให้เสร็จสมบูรณ์

หนึ่งปีถัดมา แบรนด์ได้เปิดตัวนาฬิการุ่น “Kalla” อันเป็นที่จดจำ ซึ่งได้เป็นแรงบันดาลใจสู่ “Grand Lady Kalla” ในปี 2024

An antique pocket watch with Roman numerals, placed in front of an open book with handwritten text.
A pocket watch with a detailed map of Europe on its cover, featuring gold text on a blue background.

2020 – แรงบันดาลใจแห่งเรือนเวลาโฉมใหม่

ในปี 2020 Vacheron Constantin เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่สำหรับสุภาพสตรี โดยเป็นการบรรจบกันของสองโลก:

Haute Horlogerie และ Haute Couture ถ่ายทอดผ่านมุมมองของงานฝีมือ ความแม่นยำ ความเป็นเลิศ และความงาม

คอลเลคชั่นนี้มีความคลาสสิก แฝงไว้ด้วยความซุกซน สะท้อนภาพผู้หญิงยุคใหม่ที่เปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจ เป็นอิสระ และมีเสน่ห์เฉพาะตัว

ในปี 2024 คอลเลคชั่นนี้กลับมาอีกครั้งด้วยความร่วมมือสุดสร้างสรรค์ระหว่าง Vacheron Constantin และ Yiqing Yin หนึ่งในศิลปินจากโครงการ “One of Not Many”

สถิติโลก

2025 - Solaria Ultra Grand Complication La Première 2024 - Les Cabinotiers The Berkley Grand Complication 2019 - Twin beat 2017 - Celestia Astronomical Grand Complication 2005 - Tour de l’île